วันอังคาร, พฤศจิกายน ๒๑, ๒๕๔๙

เรื่องเก่า​ ​ๆ​ ​ที่​เล่า​ ​ซ้ำ​ ​ๆ​ ​ด้วย​ความ​หวังดี

การรักษา​ด้วย​ยาต้านไวรัส​ hiv ​มี​เป้าหมาย ​คือ

​การควบคุมจำ​นวนเชื้อไวรัส​ hiv ​ใน​ร่างกาย​ให้​มี​"จำ​นวนน้อยที่สุด​และ​นานที่สุด"

​เป็น​การเปิดโอกาส​ให้​ร่างกาย"สร้างภูมิคุ้ม​กัน​"​หรือ​ "CD 4" ​ขึ้นมา​ใหม่

​จน​อยู่​ใน​ระดับปกติ​ ​เพื่อ​ให้​ CD 4 ​ได้​ทำ​หน้าที่​ใน​การกำ​จัด​และ​ควบคุมเชื้อโรคต่าง​ ​ๆ

​ได้​เป็น​ปกติ​ ​ซึ่ง​เป็น​การป้อง​กัน​การป่วย​ด้วย​โรคติดเชื้อฉวยโอกาส​หรือ​โรคแทรกซ้อน

การรักษา​ด้วย​ยาต้านสิ่งสำ​คัญที่สุด​อยู่​ที่

​เลือกสูตรยาต้านอย่างถูก​ต้อง​และ​เหมาะสม

​ซึ่ง​แต่ละคนอาจ​ได้​รับสูตรยาที่​เหมาะสม​ไม่​เหมือน​กัน​ครับ
ยาต้านไวรัส​ hiv

​ปัจจุบันยาต้านมี​อยู่​มากกว่า​ 20 ​ชนิด​ ​โดย​แต่ละชนิดทำ​หน้าที่​ใน​การขัดขวางกระบวนการ

​เพิ่มของไวรัส​ใน​แต่ละขั้นตอนแตกต่าง​กัน​ไป​ ​สามารถ​จัด​ได้​เป็น​ 3 ​กลุ่ม​ ​คือ

1.​กลุ่ม​ NRTI ​เช่น​ AZT, ddI, D4T, 3TC ​และ​ Abcavir

2.​กลุ่ม​ NNRTI ​เช่น​ Nevirapine (NVP) ​และ​ Efavirenz (EFV)

3.​กลุ่ม​ PI ​เช่น​ Saquinavir (SQV), Indinavir (IDV), Retonavir (RTV) ​และ​ Nelfinavir (NFV)

​ยาดังกล่าว​ได้​รับรอง​ ​อย​.​และ​อยู่​ใน​รายการยา​เพื่อรักษาขององค์กรอนามัยโลก​แล้ว​ครับ

สรุปปัจจุบันสูตรยาต้านที่มีประสิทธิภาพ

​เน้น​ ​ณ​ ​เวลานี้นะครับ​ ​สูตรยาต้านที่มีประสิทธิภาพ​ใน​การยับยั้งเชื้อไวรัส​ hiv ​ที่​เป็น​มาตรฐาน

​คือสูตรยาต้าน​ 3 ​ชนิด​ ​ขึ้นไปรวม​กัน​ ​ซึ่ง​ต้อง​เลือก​จาก​กลุ่มยาต้านอย่างน้อย​ 2 ​กลุ่มขึ้นไป

​ซึ่ง​อาจ​ได้​ผลนานกว่า​ 5 ​ปี​ ​ครับ

ไม่​ควรกินยาต้านดังนี้ครับ

1.​กินยาต้านเพียง​ 1 ​ชนิด​ ​เพราะ​เชื้อ​ hiv ​จะ​ดื้อยาต้าน​นั้น​ภาย​ใน​ 6 ​เดือน

2.​หากกินยาต้าน​ 2 ​ชนิด​ ​ใน​กลุ่ม​ NRTI ​ภาย​ใน​ 1-3 ​ปี​ ​เชื้อ​ hiv ​จะ​ดื้อยา
​หรือ​อาจ​จะ​ไม่​ได้​ผลเลย​ ​หาก​ผู้​ป่วยมีระดับ​ CD 4 ​ต่ำ​มาก

ผลข้างเคียงของยาต้าน

1.AZT ​หรือ​ซี​โดวูดีน
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ผลต่อระบบเม็ดเลือด​ ​เกิดอาการซีด​(​หรือ​เลือดจาง) ​เม็ดเลือดขาวต่ำ​ ​เล็บดำ
*​ผลต่อระบบทางเดินอาหาร​ ​เบื่ออาหาร​ ​ปวดท้อง
*​ปวดกล้ามเนื้อ​ ​เหนื่อยง่าย​ ​นอน​ไม่​หลับ
​ปฎิกิริยาระหว่างยา
*​ไม่​ควรกินยานี้ร่วม​กับ​ยาพารา​เซทตามอลนาน​ ​ๆ​ ​เพราะ​เพิ่มอัตราการเกิดเม็ดเลือดขาวต่ำ​ครับ
*​ผู้​ที่มีอาการตับเสื่อม​ต้อง​ลดขนาดยาลงครับ

3TC ​หรือ​ ​ลามิวูดีน
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​อาจมีอาการปวดท้อง​ ​ท้องเสีย​ ​คลื่นไส้​ ​อา​เจียน​และ​วิงเวียนศรีษะ​ ​หรือ​ผมร่วง​ได้​ครับ

EFV ​หรือ​ Efavirenz ​หรือ​ชื่อทางการค้า​ STOCRIN
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​มีผลต่อระบบประสาท​ ​ทำ​ให้​มีอาการฝันร้าย​ ​เวียนศรีษะ​ ​เห็นภาพหลอน​ได้​ ​โดย​เฉพาะ​ใน
​สัปดาห์​แรกของการกินยา
*​ผื่น
*​ระดับการทำ​งาน​ใน​ตับสูงขึ้น

D4T ​หรือ​ ​สตาวูดีน
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ชาปลายมือ​ ​ชาปลายเท้า​ ​ไขมันย้ายที่​ ​แก้มตอบ

ddI ​หรือ​ ​ไดดา​โนซีน
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ท้องเสีย
*​ชาปลายมือปลายเท้า
*​ตับอ่อนอักเสบ

Abacavir
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​มีผื่นแพ้​เกิดขึ้น

NVP ​หรือ​ ​เนวิรราปีน
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ผื่นแพ้ยา
*​ตับอักเสบ

IDV ​หรือ​ ​อินดินา​เวียร์​ ​หรือ​ ​คริกซิ​เวน
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ปวดเมื่อยตัว
*​นิ่วทางเดินปัสสาวะ​ ​(​ให้​ดื่มน้ำ​สะอาดมาก​ ​ๆ​ ​อย่างน้อยวันละ​ 2 ​ลิตร​ )

SQV ​หรือ​ ​ซาควินา​เวียร์
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ผื่นแพ้ยา​ ​พบน้อยมาก

RTV ​หรือ​ ​ริ​โทนา​เวียร์
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​คลื่นไส้​ ​อา​เจียน​ ​มวนท้อง
*​ชาที่ลิ้น​หรือ​รอบริมฝีปาก

NFV ​หรือ​เนลฟินา​เวียร์
​ข้อแทรกซ้อนของยา
*​ผื่นแพ้ยา​ ​พบน้อย
*​ท้องเสีย


​การที่ยาต้าน​จะ​มีผลข้างเคียงของยา​หรือ​ข้อแทรกซ้อนของยาต้าน​นั้น
​ก็ขึ้น​อยู่​กับ​แต่ละคนครับ​ ​บางคนมีผลมากบ้างน้อยบ้าง
​ทั้ง​นี้ขึ้น​อยู่​กับ​แต่ละคน​ได้​รับยาต้านที่ถูก​ต้อง​และ​เหมาะสม​หรือ​ไม่

การแยกระหว่างการแพ้ยาต้าน​กับ​ผลข้างเคียงของยาต้าน

การแพ้ยาต้าน
​จะ​มีลักษณะอาการดังนี้ครับ
*​มี​ไข้สูง​, ​มีผื่นลมพิษ​ ​ถ้า​แพ้มาก​ถึง​กับ​ผิวหนังดำ​ไหม้​ได้​ครับ​, ​เยื่อบุอ่อนพอง​
​เช่น​ ​เยื่อบุตา​ ​เยื้อบุ​ใน​ปาก​, ​หายใจขัด​หรือ​หอบ​ ​เป็น​ต้นครับ

การเกิดผลข้างเคียงของยาต้าน
1.​มีผล​ไม่​รุนแรง​ ​คือ​ ​อาการที่​ไม่​ทำ​ให้​เสียชีวิต​ ​แต่​จะ​รบกวนทำ​ความ​รำ​คาญ
​กับ​การ​ใช้​ชีวิตประจำ​วัน​ ​จะ​เป็น​ใน​ช่วงระยะ​แรก​ ​ๆ​ ​ของการเริ่มกินยาต้าน​และ​จะ​เริ่มดีขึ้น
​เมื่อผ่านไป​ได้​สัก​ 2 ​เดือน​ ​เช่นอาการปวดศรีษะ​ ​คลื่นไส้​ ​อา​เจียน​ ​ท้องเสีย​ ​ท้องอืด​
​นอน​ไม่​หลับ​ ​ฝันร้าย​ ​เป็น​ต้น

2.​มีผลรุนแรง​ ​คือ​ ​ทำ​ให้​เสียชีวิต​ได้​ ​ถ้า​ไม่​รีบแก้​ไข​ ​เช่น​ ​อาการซีด​ ​ตับอักเสบ​ ​ตับอ่อนอักเสบ
​ชาปลายมือปลายเท้า​ ​นิ้ว​ใน​ไต​ ​อาการดังกล่าวมัก​จะ​เกิด​กับ​ผู้​ป่วยที่​เริ่มกินยาต้าน​ ​เมื่อมี
​ระดับ​ CD 4 ​ต่ำ​มาก​ ​แล้ว​ครับ

3.​อาการผลข้างเคียงระยะยาว​ ​คือ​ผู้​ที่กินยาต้าน​เป็น​เวลานาน​ ​ๆ​ ​ตั้งแต่​ 3-4 ​ปี
​เช่น​ ​น้ำ​ตาล​ใน​เลือดสูง​ ​เป็น​อาการของเบาหวาน​ ​หิวน้ำ​บ่อย​ ​ๆ​ ​ปัสสาวะบ่อย
​ไขมันกระจายตัวผิดปกติ​ ​หรือ​ที่​เรา​เรียกว่า​ไขมันย้ายที่​ ​มีลักษณะลงพุง​ ​ไขมันพอกต้นคอ
​ไขมันพอกหน้าอก​ ​หน้าตอบ​ ​แขนขาลีบ​ ​เป็น​ต้น
ถ้า​ทุกคนที่ติดเชื้อพอ​จะ​ทราบแค่นี้ก็​เข้า​ใจ​ hiv ​และ​เอดส์​แล้ว​ครับ

​สำ​หรับ​ผู้​ที่​ยัง​คงมีระดับ​ CD 4 ​สูงกว่า​ 200 cell/ml ​ก็หมั่นไปตรวจเลือดดู​ความ​เป็น​ไป

​หรือ​การดำ​เนินของโรค​ ​โดย​ตรวจระดับ​ CD 4 ​ทุก​ 3 ​เดือนครับ​ ​หากเริ่มลดลงต่ำ​ก็ตรวจ

​ไวรัสโหลดทุก​ 6 ​เดือนครับ​ ​ทำ​ชีวิต​ให้​ง่าย​ ​ๆ​ ​สบาย​ ​ๆ​ ​กินอาหารที่สุกสะอาด​ให้​ครบ​ 5 ​หมู่
​จะ​ยากหน่อยแต่​ไม่​ต้อง​ซี​เรียด​ ​แต่​ต้อง​ให้​เพียงพอ​กับ​ความ​ต้อง​การของร่างกาย​ทั้ง​ 3 ​มื้อครับ

​พักผ่อนนอนหลับ​ไม่​น้อยกว่า​ 6-8 ​ชั่วโมง​ ​ออกกำ​ลังกายตามสภาพร่างกายสม่ำ​เสมอ

​ไปพบแพทย์ตามนัด​ ​กินยา​ให้​ตรงเวลา​ ​ทำ​จิตใจ​ให้​สดใสร่า​เริงครับ